ร่วมงานกับเรา
Investment Banking: Analyst and Associate
Key Responsibilities
- Gather information, perform financial due diligence and detailed financial analysis for businesses in various industries
- Prepare financial projection for equity valuation purposes
- Prepare report, presentation materials, information memorandum and relevant documents upon each assignment
- Coordinate with relevant parties i.e. clients, legal advisor, and etc. to complete the transaction
- Assist team in deal execution process
Qualifications
– Male or female, max. 30 years old.
– Bachelor’s or Master’s Degree in Finance & Banking, Accounting, Economics, Engineering, or related fields.
– 0-5 years work experience in investment banking, corporate lending or related fields (experience in formulating relatively complex financial modeling is highly desirable)
– Excellent analytical and conceptual skills
– High responsibility, self-motivated, and dedication to work long hours in a time-constrained environment
– Professional appearance, outgoing, energetic with strong interpersonal and communication skills
– Proficient in MS Office, especially in MS Excel and MS Power Point.
– Excellent command of written and spoken Thai and English
Applications should include a letter of application stating your interest and expected salary, resume and recent photo, and transcript.
นโยบายความเป็นส่วนตัวด้านทรัพยากรบุคคล
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และ บริษัท ฟินันเซีย ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (รวมเรียกว่า “กลุ่มบริษัท ฟินันเซีย เอกซ์” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ให้คำมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานประจำและลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต และที่เกษียณแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร (รวมเรียกว่า“คุณ” หรือ “ของคุณ") นโยบายความเป็นส่วนตัวด้านทรัพยากรบุคคลฉบับนี้ ("นโยบาย") มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลแก่คุณเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ (ตามที่นิยามไว้ด้านล่างนี้) และสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อที่จะเข้าทำสัญญาจ้างงานกับคุณ และปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานในด้านที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การจ่ายค่าจ้างและให้ผลประโยชน์แก่คุณ หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานที่ทำกับคุณได้ และในบางกรณี บริษัทอาจจะไม่สามารถว่าจ้างคุณหรือว่าจ้างคุณต่อไปได้ หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทขอแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่คุณในฐานะกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทราบเกี่ยวกับความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ รวมถึงเปิดเผย หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบริษัทต่อคุณตามกฎหมาย อันได้แก่ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น และภายใต้สัญญาการแต่งตั้งกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่บริษัทมีกับคุณ
นโยบายฉบับนี้มิใช่ส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงาน และบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว กรุณาตรวจสอบนโยบายฉบับล่าสุดที่ระบบ Intranet ของบริษัท เป็นระยะ ๆ โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในนโยบายฉบับนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องทำการแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
หากคุณคือพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้สมัครงาน
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับคุณซึ่งระบุถึงตัวคุณหรือข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวคุณได้ ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในการจ้างงานคุณ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น บริษัทอาจร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง หรือจากแหล่งต่าง ๆ โดยอ้อม (เช่น ผู้บังคับบัญชาของคุณ หน่วยงานของรัฐ ผู้ให้บริการภายนอกด้านทรัพยากรบุคคล สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์และแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ) ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
- ข้อมูลระบุตัวบุคคลและรายละเอียดการติดต่อ เช่น ชื่อเต็ม วันเกิด สัญชาติ ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน และเลขหนังสือเดินทาง
- ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร และหรือบิดามารดา รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน และผู้รับผลประโยชน์
- ข้อมูลเกี่ยวกับงาน เช่น ตำแหน่งหรือฐานะ ตำแหน่งงาน แผนก รายละเอียดเกี่ยวกับสัญญา ประวัติส่วนตัว ประวัติการจ้างงาน และใบสมัครงาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนและผลประโยชน์ของคุณ เช่น ข้อมูลค่าจ้าง เงินเดือน ค่าตอบแทน และสิทธิที่จะได้รับผลประโยชน์ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
- ข้อมูลบัญชีธนาคาร
- ข้อมูลการขาดงาน เช่น วันที่ขาดงาน หรือการใช้วันหยุดพักร้อนและวันลาประเภทอื่นของคุณ
- ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย เช่น การประพฤติมิชอบหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในฐานะพนักงาน
- ประวัติการประเมินผล เช่น การประเมินผลการปฏิบัติงานและการพิจารณาทบทวนผลการปฏิบัติงาน
- ประวัติการศึกษา เช่น ประวัติการเรียน ใบรับรองผลการศึกษา ประกาศนียบัตร
- สถานภาพทางทหาร
- ข้อมูลการถือหลักทรัพย์และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ หรือก็ต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
- ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ)
- ข้อมูลสุขภาพ (เช่น ผลการทดสอบการใช้ยา ข้อมูลการรักษาพยาบาล และข้อมูลการตรวจสุขภาพประจำปี)
- ประวัติอาชญากรรม
- เชื้อชาติและศาสนา
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่ทางบริษัทอาจได้รับข้อมูลดังกล่าวโดยตรงจากการที่คุณแจ้งข้อมูลให้แก่บริษัท ใบแบบฟอร์มการตรวจสอบคุณสมบัติหรือทะเบียนกรรมการและ/หรือผู้บริหารเข้าใหม่ หรือจากการที่บริษัทอาจตรวจสอบข้อมูลของคุณจากฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร กล่าวคือ ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ปัจจุบัน ข้อมูลบัญชีธนาคาร จำนวนหุ้น เลขประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง และข้อมูลการติดต่อ (เช่น เบอร์โทรศัพท์ และ/หรืออีเมล)
- ข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่บริษัทอาจจำเป็นต้องจัดทำตามแบบฟอร์มที่หน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานอื่น ๆ อาจประกาศกำหนด ซึ่งได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ประวัติย่อของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารแต่ละท่าน (ได้แก่ ประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน การเป็นกรรมการหรือมีตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่น ๆ การอบรม สถานภาพการสมรส คู่สมรส บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เป็นต้น) และรูปถ่ายของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร รวมถึงผลการตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารซึ่งอาจเป็นไปตามแบบฟอร์มที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอาจกำหนด
- ข้อมูลการเข้าร่วมประชุมที่กรรมการ และ/หรือผู้บริหารดังกล่าวเข้าร่วม ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งการบันทึกภาพและเสียงระหว่างการเข้าร่วมประชุมทั้งในรูปแบบการประชุมแบบออนไลน์และออฟไลน์
- ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่อาจให้แก่บริษัทระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการ และ/หรือผู้บริหารของบริษัท และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่กรรมการ และ/หรือผู้บริหารแต่ละท่านอาจนำส่งให้แก่บริษัท เพื่อการประมวลผลด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะอื่น ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลลายมือชื่อและสำเนาเอกสารแสดงตน ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง ซึ่งบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องแนบท้ายไปพร้อมกับเอกสารธุรกรรมต่าง ๆ ที่กรรมการ และ/หรือผู้บริหารดังกล่าวอาจดำเนินการในนามและแทนบริษัท เป็นต้น
นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารโดยตรงแล้ว ในกรณีที่กรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เช่น คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อกรรมการ และ/หรือผู้บริหารให้ข้อมูลดังกล่าวแก่บริษัท บริษัทจะถือว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารรับประกันว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวครบถ้วน และถูกต้องแล้ว ดังนั้น บริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวทั้งหมดได้โดยสมบูรณ์ ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หากคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัท [(เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับคุณ] [ของคู่สมรส ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการถือหลักทรัพย์ของคุณ)] คุณขอรับรองว่าคุณมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้ อีกทั้งคุณจะรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลภายนอกเหล่านั้นทราบถึงนโยบายฉบับนี้ และ/หรือขอรับความยินยอมจากบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น
- วัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมาย
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของคุณ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างของคุณและในการดำเนินธุรกิจ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- วัตถุประสงค์ที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอมของคุณสำหรับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
- ข้อมูลชีวภาพ เช่น ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ เพื่อการเข้าไปในอาคาร
- ประวัติอาชญากรรมและข้อมูลสุขภาพ เพื่อการพิจารณาใบสมัครงานและตัดสินใจจ้างงาน การคัดกรองประวัติและการติดตามตรวจสอบ
- ข้อมูลเชื้อชาติและศาสนา เพื่อการให้โอกาสอย่างเท่าเทียมและความหลากหลาย
- วัตถุประสงค์ทางด้านสถิติและการวิเคราะห์เพื่อการปรับปรุงบุคลากรและวิธีปฏิบัติในการจ้างงาน
- วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ
- การประมวลผลใบสมัครของคุณสำหรับการฝึกงาน งานนอกเวลา งานชั่วคราว หรือการจ้างงาน
- การยืนยันตัวบุคคลและการติดต่อ
- การประเมินและให้คะแนนผู้สมัคร เพื่อการตัดสินใจจ้าง
- การประเมินความเหมาะสม
- การจ่ายเงินเดือนหรือค่าตอบแทน และการให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
- การคัดกรองประวัติ หากพนักงาน/ลูกจ้างได้รับการเสนอตำแหน่งงานกับบริษัท
- การติดต่อในกรณีฉุกเฉินไปยังบุคคลที่คุณกำหนด
- วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทต้องการอย่างสมเหตุสมผล ตามที่ระบุไว้ในใบสมัครงานหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องใด ๆ
- การสรรหาบุคลากร เช่น การตัดสินใจจ้างหรือเปลี่ยนแปลงประเภทของสัญญาจ้างงาน (เช่น การเปลี่ยนสถานภาพของคุณจากผู้ฝึกงาน ลูกจ้างชั่วคราว หรืองานนอกเวลา เป็นพนักงานประจำ)
- การจัดให้มีการฝึกอบรม เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่จำเป็น และกระบวนการปฐมนิเทศและเรียนรู้งาน (on-boarding processes)
- เงินเดือน ค่าตอบแทน และการให้ผลประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ค่าจ้าง โบนัส และสวัสดิการ
- การบริหารจัดการภายในองค์กร เช่น การจัดสรรทรัพยากร การตรวจสอบภายใน และงานธุรการ
- การบริหารจัดการการลาให้สอดคล้องกับข้อบังคับการทำงานของบริษัท
- การติดต่อสื่อสาร รวมถึงการให้การอ้างอิงและคำแนะนำ
- วัตถุประสงค์ทางด้านสถิติและการวิเคราะห์ เพื่อการปรับปรุงบุคลากรและวิธีปฏิบัติในการจ้างงาน
- การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับแรงงาน สุขอนามัย และความปลอดภัย หรือตามที่หน่วยงานของรัฐร้องขอ
- การจัดเก็บประวัติการดำเนินการทางวินัยต่อพนักงาน เพื่อการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการกำหนดมาตรการทางวินัยเมื่อจำเป็น
- การดำเนินการตรวจสอบภายในเพื่อติดตามเรื่องร้องเรียนหรือการเรียกร้อง ติดตามพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพนักงาน และป้องกันการฉ้อโกง
- การติดต่อในกรณีฉุกเฉินไปยังบุคคลที่คุณกำหนด
- การป้องกันกิจกรรมของพนักงานซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือการละเลยหน้าที่
- การคุ้มครองความลับของข้อมูลและสินทรัพย์ของบริษัท
- วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทต้องการอย่างสมเหตุสมผลโดยเกี่ยวข้องกับการจ้างงานของคุณ (เช่น การดำเนินกิจกรรมหรือการดำเนินงานเพื่อหรือในนามของบริษัท) หรือตามที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างงานของคุณ ข้อบังคับการทำงาน หรือเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรบุคคล
- เพื่อการสรรหากรรมการและ/หรือผู้บริหาร โดยเฉพาะการตรวจสอบและสอบทานคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของกรรมการและ/หรือผู้บริหารกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท เช่น การบริหารจัดการบริษัท (เช่น การปรับโครงสร้างกิจการ การเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน) การปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎหมายต่อกรรมการ เช่น หนังสือเชิญประชุม เป็นต้น รวมถึงหน้าที่ตามกฎหมายต่าง ๆ ของการเป็นบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- เพื่อการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทต่อกรรมการและ/หรือผู้บริหารภายใต้สัญญาที่อาจมีระหว่างกัน ในการควบคุมดูแล บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างกรรมการและ/หรือผู้บริหารกับบริษัท ตลอดระยะเวลาการเป็นกรรมการและ/หรือผู้บริหาร ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการติดต่อสื่อสารประสานงานระหว่างบริษัทและกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่อยู่ในตำแหน่งงาน การใช้ข้อมูลของกรรมการและ/หรือผู้บริหาร เพื่อการดำเนินงานซึ่งกรรมการและ/หรือผู้บริหารดังกล่าวดำเนินการในฐานะตัวแทนของบริษัท (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารเพื่อเป็นเอกสารและข้อมูลที่ต้องใช้ในการติดต่อสื่อสาร และทำธุรกรรมทั้งหมดที่ดำเนินการในนามและแทนบริษัทกับคู่ค้า หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด) การคิดคำนวณและการจ่ายค่าตอบแทน เช่น ค่าเบี้ยประชุมให้แก่กรรมการตามข้อตกลงและกฎระเบียบ เป็นต้น
- เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของกรรมการและ/หรือผู้บริหาร ได้แก่ การดำเนินการเพื่อรับประกันความโปร่งใสและธรรมาภิบาลของบริษัท รวมถึงดำเนินการให้สอคดล้องกับข้อแนะนำหรือแนวปฏิบัติที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอาจประกาศกำหนด การจัดทำรายงานประจำปีของบริษัท หรือเอกสารเผยแพร่อื่นผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท โดยเฉพาะผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์และเว็บไซต์ของบริษัท การวิเคราะห์ข้อมูล การดำเนินกิจกรรมและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้แก่กรรมการและ/หรือผู้บริหารในการใช้สิทธิหรือการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ การบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายในองค์กร การกำกับการตรวจสอบ ตลอดจนการตรวจสอบภายในรวมถึงการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และการใช้สิทธิในการปกป้องต่อสู้ข้อต่อสู้ใด ๆ ที่อาจมีระหว่างบริษัทและกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
บริษัทอาศัยความยินยอมของคุณในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของคุณเมื่อใดก็ได้ โดยคุณสามารถติดต่อ หัวหน้าฝ่ายบุคคลของบริษัท เพื่อถอนความยินยอม การถอนความยินยอมจะต้องไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศตามความยินยอมของคุณก่อนที่จะขอถอน
บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ (ก) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับคุณ (ข) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (ง) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ (จ) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
หากคุณคือผู้สมัครงาน บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือพนักงานหรือลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
เพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาตการที่คุณไม่ให้ข้อมูลบางอย่างแก่บริษัทเมื่อมีการร้องขออาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางสัญญาหรือทางกฎหมายของบริษัท ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการสรรหาบุคลากร การจ้างงาน หรือการตัดสินใจจ้างงานคุณ หรือถอนการเสนอจ้างงาน
- บุคคลใดที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้
บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอกภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ โดยคุณสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้
- กลุ่มบริษัท: ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจถูกเข้าถึงโดยหรือแบ่งปันกับนิติบุคคลอื่นภายในกลุ่มของบริษัท เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล การรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท การบริหารความเสี่ยงหรือการตรวจสอบภายในกลุ่มของบริษัท
- หน่วยงานของรัฐ: บริษัทแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับหน่วยงานของรัฐและองค์กรต่าง ๆ (เช่น ศาล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร หน่วยงานภาษีอากรในต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมบังคับคดี กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ) ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ หรือภาระหน้าที่ทางกฎหมาย
- บุคคลภายนอกอื่น ๆ: บริษัทอาจโอนหรืออนุญาตให้บุคคลภายนอก (เช่น พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของบริษัท (อาทิ ผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ธนาคาร ผู้ให้บริการชำระเงิน บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล ตัวแทนยื่นขอวีซ่าหรือใบอนุญาตทำงาน บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล ผู้ให้บริการระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคล ผู้ให้บริการฝึกอบรม หรือผู้ให้บริการทางการเงิน)) เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในข้อ 2 ของนโยบายฉบับนี้
หากคุณคือกรรมการและ/หรือผู้บริหาร โดยทั่วไปข้อมูลส่วนบุคคลที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารให้แก่บริษัทจะไม่ถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารนั้นอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการเปิดเผยให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
- กลุ่มบริษัท หรือบริษัทในเครือ หรือผู้ให้บริการภายนอกที่ให้การบริการสนับสนุนบริษัทในการดำเนินธุรกิจและการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทที่มีต่อกรรมการและ/หรือผู้บริหาร รวมถึงการปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาบัญชี ผู้ให้บริการจัดทำรายงานการประกอบธุรกิจของบริษัท และที่ปรึกษาในด้านอื่น รวมถึงหน่วยงานตรวจสอบภายในและภายนอก เป็นต้น โดยบริษัทจะดำเนินการเปิดเผยข้อมูลบนพื้นฐานเท่าที่จำเป็น และบริษัทจะจัดทำสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้รับข้อมูลดังกล่าว
- ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งคำแนะนำของหน่วยงานกำกับดูแลของบริษัท เช่น กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรืออยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษา หรือคำสั่งของหน่วยงานราชการ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่หน่วยงานดังกล่าว เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่บริษัทมีตามกฎหมาย ซึ่งอาจรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารผ่านช่องทางเว็บไซต์หรือสื่อสาธารณะอื่นของบริษัท
- ในบางกรณีเพื่อการประกอบสัญญาหรือการติดต่อประสานงานกับคู่สัญญาของบริษัท บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยบทรายงานประจำปีของบริษัท ซึ่งอาจรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารของบริษัท และอาจจำเป็นต้องเปิดเผย ส่งต่อข้อมูลของกรรมการและ/หรือผู้บริหาร (รวมถึงสำเนาเอกสารแสดงตนของกรรมการและ/หรือผู้บริหาร) ให้แก่คู่สัญญาดังกล่าว โดยบริษัทจะดำเนินการภายใต้หลักการประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นโดยไม่กระทบสิทธิของกรรมการและ/หรือผู้บริหารในฐานะเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร
- หน่วยงานอื่นที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารแต่ละคนเคยได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้
เมื่อบริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอก บริษัทจะดำเนินการเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น การเข้าทำความตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือการดำเนินมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด
- การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
- ระยะเวลาที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และหากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารแต่ละท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น กล่าวคือ (i) ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่คุณยังมีฐานะเป็นกรรมการ และ/หรือผู้บริหารของบริษัทและตลอดระยะเวลาสัญญาที่บริษัทอาจยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้แก่กรรมการและ/หรือผู้บริหาร หรือ (ii) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายใด ๆ ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงระยะเวลาการจัดทำเอกสารบัญชี นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิและการปกป้องสิทธิของบริษัทและของคุณภายใต้สถานะบริษัทและกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพิ่มเติมตามกรอบอายุความที่เหมาะสมหลังจากที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารสิ้นสุดสภาพการเป็นกรรมการและ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้ ตามระยะเวลาอายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี
- ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์
โดยทั่วไป กิจกรรมของบริษัท (รวมถึงกระบวนการสรรหาบุคลากร กิจกรรมการจ้างงาน และกิจกรรมกับลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำ) ไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์ และบริษัทจะไม่เจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ หากคุณเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถซึ่งประสงค์จะมีความสัมพันธ์ทางการจ้างงานหรือทางสัญญากับบริษัท คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้อนุบาลของคุณก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บริษัท หากคุณเป็นผู้เยาว์ที่อายุเกิน 10 ปีแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือโดยการสมรส) คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของคุณ
- สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุณอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
- การเข้าถึง: คุณอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับคุณ
- การโอนย้ายข้อมูล: คุณอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับคุณในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
- การคัดค้าน: ในบางกรณี คุณอาจมีสิทธิคัดค้านวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในบางกิจกรรม
- การลบหรือทำลายข้อมูล: คุณอาจมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับคุณ เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป
- การจำกัด: คุณอาจมีสิทธิจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หากคุณเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง หรือการประมวลผลของบริษัทไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบริษัทไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป
- การแก้ไขให้ถูกต้อง: คุณอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
- การถอนความยินยอม: คุณอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่คุณได้ให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่คุณ
- การยื่นเรื่องร้องเรียน: คุณอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่คุณเชื่อว่าบริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้
- รายละเอียดการติดต่อบริษัท
หากคุณมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของคุณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือหากคุณประสงค์จะยื่นเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ที่ติดต่อ 999/9 อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 18, 25 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
อีเมล dpo@fnsyrus.com